Wednesday, September 20, 2017

.. เล่าเฒ่าที่รู้ .. "สี่แผ่นดิน" ตอนที่ ๒


.. เล่าเฒ่าที่รู้ .. "สี่แผ่นดิน" ตอนที่ ๒

 คลองบางหลวง กับ บ้านฟากข้างโน้น

.. ในเรื่อง สี่แผ่นดิน ผู้ประพันธ์ได้สมมุติ
ให้เจ้าคุณพ่อของพลอยคือ พระยาพิพิธฯ ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมคลองบางหลวง ..?

... @.. คลองบางหลวง คืออีกชื่อหนึ่งของ
"คลองบางกอกใหญ่" สาเหตุที่เรียกว่า
คลองบางหลวง สันนิษฐานว่า ครั้งเมื่อ
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้สถา
ปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี มีพวก
ข้าราชสำนักซึ่งถือว่าเป็นคนของหลวง
พากันมาตั้งบ้านเรือนอยู่อย่างหนาแน่น
สองฟากฝั่งคลองบางกอกใหญ่ คนทั่วไป
จึงเรียกชื่อคลองตอนที่คนของหลวงตั้ง
บ้านเรือนอยู่ว่า คลองบางหลวง

.. มีผู้สันนิษฐานอีกอย่างหนึ่งว่า ชื่อคลอง
บางหลวง มาจากชื่อบางหลวง ซึ่งเป็นชื่อ
สถานที่หนึ่งที่คลองบางกอกใหญ่ผ่าน
จึงมีผู้เรียกตามชื่อสถานที่นั้นว่า คลองบาง
หลวง แต่จะอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนทั่วไป
ก็ยังใช้ทั้งสองชื่อเรียกคลองสายนี้ตามความถนัดหรือเคยชินของตน

.. คำว่า บ้านฟากข้างโน้น ในเรื่องสี่แผ่นดิน
ใช้แทนคำเรียกพระยาพิพิธฯ พ่อของพลอย

เป็นที่รู้กันทั่วไปในสมัยนั้นว่า บ้านฟากข้างโน้น
หมายถึง บ้านของพวกตระกูลบุนนาค
ซึ่งมีประวัติตระกูลเก่าแก่ สืบเชื้อสายจาก
"เฉกอะหมัด" พ่อค้าชาวเปอร์เซียที่เข้ามา
ค้าขายในไทยสมัยอยุธยา ปลายรัชสมัย
สมเด็จพระเอกาทศรถ และเลยตั้งบ้าน
เรือนอยู่ถาวร ทำคุณประโยชน์ไว้แก่บ้าน
เมือง จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
เป็น"เจ้าพระยาเฉกหมัดรัตนราชมนตรี"
มีบุตรหลานสืบต่อมา จนถึงนายบุนนาค
ถือเป็นต้นตระกูลบุนนาค เป็นสหายสนิท
กับนายทองด้วง ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย


 .. เมื่อนายทองด้วงได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ สมเด็จเจ้าพระยามหา
กษัรตริย์ศึก นายบุนนาคทำหน้าที่เป็นทนายหน้าหอ รับใช้ใกล้ชิด

ร่วมทำศึกกับพม่าหลายครั้ง ภายหลังภรรยาเสียชีวิต
นายบุนนาคได้สมรสกับคุณนวล ซึ่งเป็น
น้องสาวของท่านผู้หญิงนาค ภรรยาสมเด็จ
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จึงมีความสนิทสนมผูกพันเพิ่มขึ้น คือ เป็นทั้งเพื่อน และ
เป็นทั้งข้าและเกี่ยวดองเป็นญาติ คือ
เขยใหญ่ เขยน้อย


 .. เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
ปราบดาภิเษกเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็น
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
นายบุนนาคก็ได้รับพระราชทานบรรดา
ศักดิ์สูงสุด เป็นเจ้าพระยามหาเสนา และ
ได้ถวายบุตรธิดาคนโตซึ่งเกิดจากภรรยา
เก่า คือ คุณตานี เป็นเจ้าจอม ทำให้ความ
ผูกพันของราชวงศ์จักรี และตระกูลบุนนาค
ยิ่งกระชับแน่นเป็นทวีคูณ บุตรหลานที่เกิด
ในยุคนั้นถือเป็นราชินิกุล ได้เข้ารับราชการ
ใกล้ชิดเบื้ิองยุคลบาททั้งราชสำนักฝ่ายหน้า
และฝ่ายใน


 .. ส่วนการที่เรียกพวกตระกูลบุนนาคว่า
"บ้านฟากข้าวโน้น" มีสาเหตุมาจากครั้ง
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดสถา
ปนากรุงธนบุรี เป็นเมืองหลวงนั้น บรรดา
ข้าราชการทั้งหลายต่างก็ปลูกสร้างเคหะ
สถานอยู่รอบๆ พระราชวัง ณ กรุงธนบุรี
รวมทั้งสมเด็จเจ้าพระยายมหากษัตริย์ศึก
และนายบุนนาค จนเมื่อสมเด็จเจ้าพระยา
มหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกเถลิงถวัลย
ราชสมบัติแล้ว โปรดให้ย้ายเมืองหลวงจาก
กรุงธนบุรี มาอยู่คนละฟากแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่กรุงเทพฯ แต่พวกตระกูลบุนนาคมิได้ย้ายตามมาด้วย
คงตั้งหลักปักฐานมั่นคงจับจอง
ที่ดินสร้างบ้านเรือนขยายอาณาเขตกว้าง
ขวางอยู่ ณ กรุงธนบุรี ดังปรากฎหลักฐาน
เป็นชื่อสถานที่สำคัญในปัจจุบัน มีทั้งชื่อถนน
เช่น ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งมีเคหะ
สถานของสมเด็จเจ้าพระยาตระกูลบุนนาค
อยู่ถึง ๓ ท่าน ชื่อวัด เช่น วัดประยูรวงศา
วาสวรวิหาร เป็นวัดที่สมเด็จเจ้าพระยาของ
ตระกูลบุนนาคสร้าง เป็นต้น กล่าวได้ว่า
ในสมัยนั้นคนในตระกูลบุนนาคส่วนใหญ่
อาศัยอยู่ทางฝั่งธนบุรี ดังนั้น เมื่อคนฝั่ง
พระนครเอ่ยถึงผู้คนตระกูลบุนนาค จึงมักเรียกรวมๆ ว่า "บ้านฟากข้างโน้น" และ
เลยกลายเป็นชื่อที่คนทั่วไปรู้กันว่าหากพูด
ถึง "บ้านฟากข้างโน้น" ก็หมายถึง คนหรือ
พวกตระกูลบุนนาค ...!

 ปล.
๑. คลองบางหลวง หรือ บางคนที่เรียกว่า
"คลองบางกอกใหญ่" ก็คือ ลำคลองที่แยก
ออกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงป้อมพระ
วิเศษประสิทธิ์ และ วัดอรุณราชวราราม
แต่ถ้าเป็น ตำบลบางหลวง อยู่ที่ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ..?

 ๒. คลองบางหลวง มีชื่อเป็นทางการว่า
"คลองบางกอกใหญ่"

 ๓. รูปที่แนบมามีรายละเอียดดังนี้คือ
รูปที่ ๑ คือ รูปบ้านเรือนริมคลองบางหลวงในสมัยก่อน
รูปที่ ๒ คือ รูปวัดอรุณราชวราราม
รูปที่ ๓ คือ รูปป้อมพระวิเศษประสิทธิ์พระราชวังเดิม
รูปที่ ๔ คือ รูปคลองบางหลวงในปัจจุบัน

@ โอ้ ... บางหลวง
นามนี้พี่ครองรักหนักหน่วง
พี่หวงเนิ่นนานบางหลวงฝั่งคลอง
ให้พี่ .. หมองใจตื้นตัน
บางหลวงหน่วงใจพี่ฝัน ฝัน สัมพันธ์เสมอ@

เรื่องจริงของจริงใน "สี่แผ่นดิน" ตอนที่ ๒

 โดย.. ลุงใหญ่
 ๐๕ มกราคม ๒๕๕๖

** เนื้อหาสาระของความคิดนั้น จะผิด ถูก ตรง ไม่ตรง
ดี ไม่ดี อย่างไร ก็เป็นเรื่องของความคิด

และขึ้นอยู่ที่ผู้อ่านว่าจะตัดสินอย่างไร เป็นสิทธิส่วนบุคคล

ลุงใหญ่ บันทึกไว้เพื่อกันลืมเท่านั้น 
มิได้ตั้งใจจะสอนอะไรกับใครๆ ทั้งสิ้นครับ **










No comments:

Post a Comment