ความเชื่อ หรือ ความศรัทธา มักเป็นจุดเริ่มต้นของมนุษย์ทั่วไป ที่จะเข้าถึง ทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา)
มันเป็นธรรมสำคัญที่จำเป็นจะต้องเน้นให้มาก ๆ ว่าจะต้องเป็นความเชื่อที่ถูกต้องตามหลักที่จะเป็นสัมมาทิฏฐิ
ฉะนั้นความเชื่อ หรือ ความศรัทธา ที่ถูกจะต้องมีความสัมพันธ์กับปัญญา เป็นส่วนเฉพาะดังนี้คือ
๑. ความเชื่อ หรือ ความศรัทธา จะต้องประกอบด้วยปัญญา และนำไปสู่ปัญญา
๒. ความศรัทธาเกื้อหนุน และนำไปสู่ปัญญา..โดย
- ความศรัทธา... ช่วยให้ปัญญาเราได้จุดเริ่มต้น เช่น ได้แสดงสาระ ความมีเหตุผล ความน่าเชื่อถือ หรือน่าเสื่อมใส เห็นว่าจะนำไปสู่ความเป็นจริงได้ เราจึงเริ่มศึกษาค้นคว้าจากจุดนั้น ๆ
- ความศรัทธา... ช่วยให้ปัญญามีเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจน เมื่อเกิดความเชื่อแล้วเราก็จะได้ความเป็นจริงแล้วก็จะทำให้ตัวเรามุ่งหน้าไปในทางนั้น เจาะลึกลงไปในเรื่องนั้นๆ ไม่จับจด เพราะเกิดจากความศรัทธาจริงๆ
- ความศรัทธา... ช่วยให้ปัญญามีพลัง หรือช่วยให้การพัฒนาปัญญาก้าวไปอย่างเข้มแข็งอย่างมั่นคง คือ เมื่อเกิดความเชื่อมั่นในใจว่าจะได้ความเป็นจริง ก็มีกำลังใจเพียรพยายามศึกษาค้นคว้าเอาอย่างจริงจัง ความเพียรก็จะมาหนุน
สรุป : ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าท่านจึงทรงแสดงถึงหลักความเสมอภาคกัน หรือหลักความสมดุลแห่งอินทรีย์
ที่เรียกว่า "อินทริยสมตา" ไว้ โดยให้ผู้ที่ปฏิบัติทั่ว ๆ ไปได้มีความเชื่อและความศรัทธาที่เข้าคู่สมดุลกับปัญญา
จึงให้ธรรมทั้ง ๒ อย่างนี้ เป็นเครื่องมือช่วยเสริมกันและคุมกันให้พอดี...
(-เฉกเช่นเดียวกันกับ วิริยะ คือ ความเพียร ที่จะต้องเข้าคู่กันให้สมดุลกับสมาธิ เพื่อให้วิริยะไม่เป็นความเพียร
ที่พลุ่งพล่านร้อนรน และจะทำให้สมาธิไม่กลายเป็นนิ่งเฉย ๆ หรือ เกียจคร้านเฉื่อยชาไปได้ แต่ให้เป็นการก้าว
ไปอย่างเรียบรื่นและจงหนักแน่นให้มันมั่นคง ก็โดยมีสติเป็นเครื่องมือ เป็นตัวกำกับ เป็นตัวกำจัด เป็นตัวปรับ
และเป็นตัวรักษาในความสมดุลนั้นไว้ ถ้าพูดกว้าง ๆ ก็ถือว่า อินทรีย์ ๕ จะต้องสมดุลกันทั้งหมด-)...ลุงใหญ่ ??
..................................................................................................................................................
อินทรีย์ ๕ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ; เป็นเรื่องความเสมอกัน หรือ สมดุลแห่งอินทรีย์
No comments:
Post a Comment